แนวทางการศึกษาพระสมเด็จ
ของอาจารย์อริยะ สุพรรณเภษัช
ศูนย์ศึกษามวลสารพระสมเด็จในประเทศไทย
( ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระสมเด็จได้ที่ )
( http://www.ariyasound.com/index.php)
1. การค้นหาแนวทางการศึกษา
เนื่องจากปัจจุบันพระสมเด็จที่จัดสร้างโดยสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ทั้งสามวัด ได้แก่วัดระฆัง
วัดบางขุนพรหม และวัดเกศไชโย มีค่าความนิยมสูงและเป็นที่สุดยอดแห่งการแสวงหาของนักนิยมสะสมพระเครื่องและบุคคลทั่วไป เป็นอย่างมาก
ข้าพเจ้าเป็นผู้ที่สนใจในศาสตร์พระเครื่องมามากกว่าสามสิบปี แต่เดิมสนใจในพระกรุเก่าเนื้อดิน-ชินต่างๆอย่างเดียว แต่มาภายหลังได้รับแรงบันดาลใจจากการศึกษา เรื่องสมาธิที่ได้มีการพูดถึงพลังแห่งสีขาวที่มีผลต่อการพัฒนาปัญญาญาณที่ได้จากผงวิเศษของพระสมเด็จของสมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี และจากการที่มีผู้ประมูลพระสมเด็จ วัดระฆังที่เรียกว่าองค์เสี่ยหน่ำในราคากว่าสามสิบล้านบาท
พระสมเด็จ วัดระฆัง (องค์เสี่ยหน่ำ) ราคาประมูลสามสิบล้านบาท
ปัจจุบันอยู่กับคุณวิชัย รักศรีอักษร เจ้าของบริษัทคิงพาวเวอร์
ทำให้ข้าพเจ้าสนใจมาศึกษาในพระสมเด็จของสมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี อย่างจริงจัง แต่ได้พบอุปสรรคและความยากลำบากในการศึกษาเป็นอย่างมาก ด้วยสาเหตุแห่งการที่ไม่มีพระสมเด็จแท้ ๆ ให้ศึกษาเลย ซึ่งการศึกษาพิจารณาพระสมเด็จที่กล่าวมาจากตำราพระสมเด็จที่สำคัญต่าง ๆ เช่น ตำราพระสมเด็จฯ ของตรียัมปวาย เป็นต้น ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการพิจารณาพระสมเด็จไว้ว่าควรศึกษาพิจาณาพระสมเด็จจากหลักใหญ่ ๆ สามประการ ได้แก่ พิมพ์ทรงหนึ่ง เนื้อหามวลสารหนึ่ง และธรรมชาติความเก่าหนึ่ง
แนวทางการศึกษาพระสมเด็จจากพิมพ์ทรง การที่จะให้เกิดความกระจ่างในการศึกษาพระสมเด็จด้านพิมพ์ทรงให้พอวินิจฉัยได้ด้วยตนเองจำเป็นต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการศึกษามาก เนื่องจากสมเด็จนั้นแต่ละวัดมีหลายพิมพ์ทรง และแต่ละพิมพ์ทรงยังมีไม่ต่ำกว่า 4-5 บล๊อกขึ้นไป ทำให้มีพิมพ์ทรงที่ต้องศึกษาเป็นร้อย ๆ พิมพ์ทรง ทั้งการศึกษาด้านพิมพ์ทรงการดูแต่รูปนั้นย่อมจะไม่ได้ผลดีเท่าการที่ได้ดูองค์จริงเพื่อจะได้ดูมิติเส้นสายในองค์พระต่าง ๆ ด้วยตาตนเอง แต่โอกาสดังกล่าวคงเป็นไปได้ยากลำบากอย่างยิ่งเนื่องจากคงไม่มีใครที่จะให้นำพระสมเด็จที่แท้ๆและสวย ๆสักองค์ออกมาให้พิจารณากัน เนื่องจากค่านิยมของพระสมเด็จทั้งสามวัดในปัจจุบันมีราคาสูงมากถึงหลักล้านบาทถึงหลักสิบล้าน นอกจากผู้ซึ่งมีโอกาสได้เป็นกรรมการในการตัดสินพระเบญจภาคีจะมีโอกาสได้ศึกษาอย่างใกล้ชิด เราท่านซึ่งเป็นคนธรรมดาย่อมขาดโอกาสและเกิดอุปสรรคยากลำบากต่อการศึกษาความรู้เกี่ยวกับพระสมเด็จด้านพิมพ์ทรงเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังมีสามารถที่มีอยู่อย่างจำกัด ต่อทักษะความรู้ในการจดจำลักษณะพิมพ์ทรงพระสมเด็จที่มีอยู่จำนวนมาก ทำให้ข้าพเจ้าให้ความสนใจในการศึกษาในข้อที่เหลือ ได้แก่เนื้อหาและธรรมชาติความเก่าของพระสมเด็จแทน
2. การค้นพบแนวทางการศึกษาพระสมเด็จจากมวลสารพระสมเด็จและสภาพธรรมชาติความเก่า
จากการศึกษาจากผู้รู้ที่เป็นเซียนที่คร่ำหวอดในพระตระกูลสมเด็จ ท่านได้ให้ข้อเคล็ดลับ
ในการศึกษาพระสมเด็จมาแก่ข้าพเจ้าไว้ดังนี้
เคล็ดลับที่ 1
ถ้าอยากศึกษาพระสมเด็จแบบเรียนลัดต้องทำดังนี้
ถ้าอยากศึกษาพระสมเด็จวัดระฆัง ต้องไปหาพระสมเด็จหลวงปู่ปั้น วัดสะพานสูง เนื้อจัด ๆ มาดู
ถ้าอยากศึกษาพระสมเด็จบางขุนพรหม ต้องไปหาพระกรุวัดเงินคลองเตย เนื้อจัด ๆ มาดู
ถ้าอยากศึกษาพระสมเด็จวัดเกศไชโย ต้องไปหาพระสมเด็จกรุวั้ดเฉลิมพระเกียรติ เนื้อจัดมาดู
ทำครบสามประการนี้แล้ว ริดสีดวงด้านดูพระสมเด็จจะขึ้นตาท่านแล
เคล็ดลับที่ 2
ตรียัมปวายได้ให้ข้อเตือนใจนักนิยมพระสมเด็จว่า
จุดชี้ขาดของพระสมเด็จนั้นวัดกันที่เนื้อหาเป็นประเด็นสำคัญเหนือกว่าพิมพ์ทรง
ไม่มีพระสมเด็จแท้องค์ใด ที่พิมพ์ใช่แต่เนื้อไม่ใช่ หรือพิมพ์ไม่ใช่แต่เนื่อใช่
เคล็ดลับที่ 3
การศึกษาพระสมเด็จเมื่อเริ่มศึกษา ควรศึกษาเนื้อพระเป็นหลัก แล้วจึงค่อยไปพิจารณาพิมพ์ทรง
การศึกษาพระสมเด็จเมื่อเริ่มเก่งแล้ว ควรศึกษาพิมพ์ทรงเป็นหลัก แล้วจึงค่อยไปพิจารณาเนื้อพระ
เคล็ดลับที่ 4
การไปสู่บันไดแห่งผู้รู้ในพระสมเด็จ สามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ โดยอาศัยการก้าวบันไดเจ็ดขั้นเรียนไต่เต้าไปโดยใช้การพิจารณาเนื้อพระเป็นหลัก หรือจะเดินบันไดก้าวเดียวเรียนจากพิมพ์ทรงพระสมเด็จโดยตรง ไม่ว่าจะไต่บันไดแบบใด สุดท้ายก็นำพาไปสู่สิ่งเดียวกัน
เคล็ดลับที่ 5
ถ้าท่านศึกษาพิมพ์ทรง พระสมเด็จจะมีให้ท่านบูชาน้อยมาก
พระสมเด็จที่ท่านบูชาได้ คือพระสมเด็จพิมพ์หลวงวิจารฯ
ถ้าท่านศึกษาเนื้อหา พระสมเด็จจะมีให้ท่านบูชามากมาย
พระสมเด็จที่ท่านบูชาได้ คือพระสมเด็จพิมพ์โบราณ พิมพ์ช่างสิบหมู่ และพิมพ์หลวงวิจารฯ
เคล็ดลับที่ 6
ถ้าท่านไม่เคยพบพระสมเด็จ ท่านย่อมไม่อาจหาพระสมเด็จพบ
การไม่ได้พบพระสมเด็จ
ถ้าสามารถเปรียบเทียบได้กับ การที่ท่านไม่ได้เคยพบสรพงษ์ ชาตรี ท่านย่อมไม่รู้จักสรพงษ์ ชาตรี
แม้ว่าท่านได้เคยพบสรพงษ์ ชาตรีมาแล้ว ท่านก็ไม่รู้จัก ท่านอาจเข้าใจด้วยตนเองว่า สรพงษ์ ชาตรี หน้าตา เป็นเช่นนั้น เช่นนี้ เมื่อใดก็ตามที่ท่านได้พบสรพงษ์ ชาตรี สักครั้ง ท่านก็ย่อมที่จะรู้จักสรพงษ์ ชาตรีการหาพระสมเด็จเช่นเดียวกัน ถ้าท่านพบพระสมเด็จที่แท้จริงสักครั้ง รู้จักพิมพ์ทรง รู้จักมวลสารท่านก็ย่อมที่จะพบพระสมเด็จองค์ต่อไปเรื่อย ๆ
เคล็ดลับที่ 7
พระสมเด็จพิมพ์นิยม ของหลวงวิจารฯ เปรียบได้กับนางงามจักรวาล
พระสมเด็จพิมพ์ช่างสิบหมู่ เปรียบได้กับนางสาวไทย
พระสมเด็จพิมพ์โบราณ เปรียบได้กับนางงามท้องถิ่น
ท่านสามารถเลือกสินสอดที่จะไปสู่ขอนางงามต่าง ๆ ตามฐานานุรูปของท่านแล
เคล็ดลับที่ 8
ทำไมขายพระสมเด็จองค์เป็นล้านๆ อย่างเขาไม่ได้ ทั้งที่พระของเราก็สวยก็แท้
ให้คิดถึงลูกสาวของท่าน
ถ้าท่านเป็นข้าราชการธรรมดา พ่อค้าเล็กๆ สินสอดมาสู่ขอลูกสาวท่าน ห้าแสน ก็หรูแล้ว
ถ้าท่านเป็นนายพลเอก ผู้ยิ่งใหญ่ สินสอดมาสู่ขอลูกสาวท่าน ก็คงต้องเป็นหลักสิบล้าน
ถ้ายิ่งท่านเป็นนักการเมืองใหญ่คับประเทศ สินสอดมาสู่ขอลูกสาวท่าน ก็คงเป็นหลักร้อยล้าน
แต่ทางกลับกัน ถ้าท่านเป็นชาวเขา สินสอดขอลูกสาว อาจเป็นแค่หมูดำ 1 ตัว
ยกเว้นส่งลูกสาวของท่านไปประกวด ได้เป็น นางงามท้องถิ่น นางสาวไทย นางงามจักรวาล
สินสอดก็คงต้องปรับขยับกันได้มาก ๆ
ดังนั้น ถ้าใครจะขายพระสมเด็จได้เท่าไร ก็ทางใครทางมันแล้วกันนะครับ อย่าไปอิจฉาบุญวาสนา
เขาเลย
เคล็ดลับที่ 9
เรื่องแปลกแต่จริงแต่น่าสนใจจากเซียนพระสมเด็จ
ท่านทราบไหมว่าพระสมเด็จแท้ ๆ ที่เขาซื้อขายกันจริงในตลาดพระ ราคาเท่าไรเป็นส่วนมาก
เป็นน่าประหลาดใจที่พระสมเด็จที่แท้ ๆ นั้นส่วนใหญ่ ซื้อหากันในหลักร้อย-หลักพัน กับหลักล้านเท่านั้น
พระสมเด็จหลักร้อย-หลักพัน เป็นพระสมเด็จที่พบฟลุ๊คตามท้องตลาดสนามพระทั่วไป ราคาเท่านี้เพราะคนขายดูไม่ขาดหรือจำต้องขายตามวรรณะที่ถูกกำหนดให้ต้องขายถูกเท่านั้น
พระสมเด็จหลักล้าน เป็นพระที่อยู่ในมือเซียนใหญ่โครตเซียนทั้งหลาย ราคาเท่านี้เพราะคนขายดูขาด เลยตั้งราคาแพง และคนซื้อก็อยากซื้อกับเซียนใหญ่เพราะมีความเชื่อมั่นในตัวเซียนและใจถึง
พระสมเด็จที่ซื้อหา ในราคาหลักหมื่นกลางและราคาหลักแสน กลับเป็นพระปลอมมากกว่า อย่างไม่น่าเชื่อ มันแปลกจริงนะ แล้วท่านซื้อพระสมเด็จในราคาเท่าไรจ๊ะ
จากข้อคิดในเคล็ดลับดังกล่าวทำให้ข้าพเจ้าสนใจที่จะศึกษาพระสมเด็จโดยศึกษาจากมวลสารและและสภาพธรรมชาติของความเก่าของพระสมเด็จ ดังนั้นจากการที่เคยมีประสบการณ์ที่เคยศึกษาพระกรุเก่าโบราณ ที่เมื่อเริ่มศึกษาข้าพเจ้าจะชอบซื้อพระกรุที่สภาพสึก ๆ หรือเศษหักของพระกรุแท้ ๆ ที่มักมีราคาไม่แพงนักมาศึกษา ซึ่งจะทำให้มีความรู้เกี่ยวกับเนื้อหามวลสารทั้งภายนอกภายในได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้สามารถวินิจฉัยถึงสภาพความเก่าและประเมินอายุของพระนั้น ๆ ได้ว่าเป็นพระกรุของเมืองไหน ยุคใด สมัยใด จึงได้นำหลักการดังกล่าวมาใช้เมื่อต้องการศึกษาพระสมเด็จ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 เป็นต้นมา
ทำให้ข้าพเจ้าจึงได้ใช้ความพยายามกำลังเวลาและกำลังทรัพย์ในการรวบรวมพระสมเด็จแท้ ๆ ที่มีสภาพสึกเลือนเหลือแต่แก่น พระสมเด็จที่ผ่านการเซาะ การกรอ การแกะ หรือชิ้นส่วนพระสมเด็จและพระตระกูลสมเด็จที่ชำรุดแตกหักโดยเก็บทุกสภาพ เอาไว้จำนวนมากโดยในช่วงแรกได้พยายามเช่าหาจากนิตยสารพระเครื่องต่าง ๆ และจากสนามพระทั่วไปจากนั้นก็นำพระที่ซื้อหามาได้ตรวจสอบกับผู้ชำนาญการด้านพระเนื้อผง จากนั้นก็นำพระที่ผ่านการตรวจสอบแล้วมาศึกษาเพื่อเป็นพื้นฐานของการพิจารณาเชิงเปรียบเทียบด้านเนื้อหามวลสารและธรรมชาติความเก่า
โดยพิจารณาคำนวณอายุของเนื้อผงจากการประเมินทางสายตา พร้อมกันนั้นก็ทำการค้นหา ความแตกต่างระหว่างมวลสารของพระสมเด็จแท้กับพระสมเด็จปลอม และความแตกต่างระหว่างพระสมเด็จแท้กับพระตระกูลสมเด็จที่เนื้อจัด ภายใต้เนื้อหาทฤษฎีที่ได้ด้านเนื้อหามวลสารจากตำราพระสมเด็จที่มีอยู่ทั่วไป ถึงจะทำเช่นนี้ก็ไม่ใช่งานง่ายที่จะเข้าใจอะไรได้ลึกซึ้งเพราะศาสตร์เกี่ยวกับพระสมเด็จเป็นศาสตร์สูงสุดสำหรับเซียนพระ ถ้าให้ชำนาญจริงก็คงต้องใช้เวลานานมาก แต่อย่างไรก็ตามโอกาสที่ได้ศึกษาเนื้อพระสมเด็จแท้ ๆ ทุกตระกูลเป็นจำนวนมากก็เป็นแนวทางหนึ่งที่พอจะสร้างพื้นฐานที่ดีทำให้เป็นตัว ของตัวเองมากขึ้นในการพิจารณาพระสมเด็จ แต่ในปัจจุบัน พบว่านิตยสารพระเครื่องและตามสนามพระที่เคยมีเศษหักพระสมเด็จแท้ๆ และพระเนื้อผงตระกูลสมเด็จพิมพ์ต่างๆ ก็หายากมากไม่มีพระให้บูชา หรือมีก็ราคาแพงมาก ทำให้คนรุ่นหลังที่คิดจะศึกษาพระสมเด็จจากเนื้อหามวลสารเช่นข้าพเจ้าย่อมเกิดความยากลำบากต่อการศึกษามากขึ้น
3. การค้นพบสิ่งที่เรียกว่าสูตรเนื้อพระสมเด็จ จากพระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆัง
ซึ่งในช่วงระยะแรกเริ่มในการศึกษาพระสมเด็จนั้นได้ไปที่วัดระฆังบ่อย ๆ เพื่อไปสวดมนต์พระคาถาชินบัญชรต่อหน้าพระรูปหล่อสมเด็จพุฒาจารย์โต ณ วัดระฆังโฆสิตาราม และใส่เงินทำบุญกับตู้บริจาคของมูลนิธิพระสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี พร้อมกันไปด้วย ซึ่งผู้นิยมพระสมเด็จมีความเชื่อกันว่าผลบุญที่เกิดจะทำให้มีโอกาสได้ครอบครองพระสมเด็จแท้ๆ สักองค์หนึ่ง ทำให้ได้มีโอกาสศึกษาพระสมเด็จที่สร้างโดยหลวงปู่นาค วัดระฆังที่สร้างไว้มากมายหลายพิมพ์ทรง โดยเฉพาะที่สร้างไว้ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2584 และ ปี พ.ศ. 2595 ซึ่งเป็นพระสมเด็จที่ท่านได้จัดสร้างไว้โดยมีมวลสารของพระสมเด็จวัดระฆังที่แตกหักผสมไว้เป็นจำนวนมากมายมหาศาล ซึ่งเป็นเศษพระแตกหักจากผู้ที่นำมาไว้ที่วัดและพระสมเด็จวัดระฆัง ที่พบบนหลังคาโบสถ์จำนวนมาก ทำให้ได้ความรู้ว่าพระสมเด็จของหลวงปู่นาคบางองค์ที่เนื้อจัด ๆ นั้น เซียนพระบางท่านนำมาใส่ตลับทองตีว่าเป็นพระสมเด็จวัดระฆัง และเปิดราคาเป็นหลัก หมื่นหลักแสนนั้น ความจริงแล้วเป็นพระสมเด็จของหลวงปู่นาค วัดระฆัง ที่สร้างในยุคต้น ๆ ที่มีเนื้อหาส่วนผสมของพระสมเด็จวัดระฆังอยู่เป็นจำนวนมากนั่นเอง
จากประสบการณ์ที่ได้ผ่านสายตาพระสมเด็จของหลวงปู่นาค วัดระฆังหลายร้อยองค์ทำให้มีความเข้าใจในธรรมชาติของเนื้อหาพระยุคดังกล่าวมากขึ้น จนเกิดข้อสรุปภายในใจเกี่ยวกับคำว่าสูตรเนื้อพระสมเด็จตำรับวัดระฆัง เพราะการดูเนื้อพระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆังจำนวนมาก ๆ จะทำให้เกิดความเข้าใจในคำดังกล่าวมากขึ้น ทำให้ต่อไปไม่ว่าจะดูพระสมเด็จหรือพระตระกูลสมเด็จองค์ใด ก็ไม่พ้นคำว่าสูตรเนื้อพระสมเด็จทุกองค์
เซียนผู้ศึกษาพระสมเด็จท่านใดที่บอกว่าพระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆังที่ท่านพิจารณาอยู่ว่าเป็นพระสมเด็จเก๊ แสดงว่าท่านยังไม่เข้าใจคำดังกล่าวอย่างแท้จริง
จากการศึกษาการสร้างพระสมเด็จพบว่าพระสมเด็จที่กล่าวกันว่ามีเนื้อหามวลสารของพระสมเด็จวัดระฆังเป็นจำนวนมากที่สุดนั้น ก็คือพระสมเด็จของหลวงปู่นาค วัดระฆังนั่นเอง และอีกวัดหนึ่ง ก็คือ พระสมเด็จของพระครูมูล วัดสุทัศน์ โดยเฉพาะพระสมเด็จพิมพ์ทรงเจดีย์ ที่สร้างปี พ.ศ. 2485 มีเนื้อหามวลสารจัดมาก จนเซียนสมองใสบางคนทำการเซาะพิมพ์และขายเป็นพระสมเด็จ พิมพ์ทรงเจดีย์ วัดระฆังไปเป็นจำนวนมาก จนทำให้ท่านต้องสร้างแม่พิมพ์ใหม่เป็นพระสมเด็จพิมพ์มีหน้าตา ปี พ.ศ. 2495 ทำขึ้นให้แตกต่างจากพิมพ์ทรงของพระสมเด็จเพื่อป้องกันการนำพระของท่านไปหลอกลวงคนอื่น
ส่วนพระสมเด็จที่มีเนื้อหามวลสารของพระสมเด็จบางขุนพรหมเป็นจำนวนมาก ก็คงได้แก่ พระสมเด็จของหลวงตาพัน วัดอินทรวิหาร ,พระสมเด็จของหลวงปู่ลำภู วัดอินทรวิหาร,สมเด็จบางขุนพรหม ปี พ.ศ.. 2509 และพระชุดวัดประสาทบุญญาวาศ โดยเฉพาะ พิมพ์หลวงปู่ทวดสีขาว ,หลวงพ่อโต ,จันทร์ลอย เป็นต้น ที่มีส่วนผสมของเนื้อพระสมเด็จบางขุนพรหม ผสมอยู่จำนวนมาก
4. การค้นพบพระสมเด็จพิมพ์โบราณ ที่เรียกกันว่า พระกรุวัดทัพข้าว
ข้าพเจ้าได้รับความรู้จากนักนิยมพระเครื่องเนื้อผงอาวุโส เกี่ยวกับเรื่องราวของพระผงกรุวัดทัพข้าว ซึ่งเป็นพระกรุที่ได้รับความนิยมมานานแต่ยังไม่มีใครรู้ชัดเกี่ยวกับผู้สร้างพระชุดนี้
ผู้รู้ที่เป็นนักนิยมพระอาวุโสและสะสมพระกรุวัดทัพข้าวนี้ไว้จำนวนมาก ได้กล่าวว่าพระกรุนี้พบว่ามีการสร้างไว้สองยุค ด้วยกัน
ยุคแรกสร้างสมัยสุโขทัย เป็นพระผงพุทธคุณแกร่งเป็นหิน มีพิมพ์ทรงต่าง ๆ เช่น พิมพ์ประธานพร พิมพ์ร่วงนั่ง เป็นต้น
ยุคสองสร้างสมัยรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีข้อสันนิษฐานไว้ถึงผู้สร้างพระดังนี้
ข้อสันนิษฐานที่ 1 สร้างสมัยรัชกาลที่ 3 ผู้สร้างคือ ขรัวตาแสง วัดมณีชลขันธ์ ซึ่งเป็นพระอาจารย์เอกทางกรรมฐานของสมเด็จโต ที่ได้ความรู้ในเรื่องการทำพระเนื้อผงมาจากตำราโบราณในจังหวัดสุโขทัย ท่านได้สร้างพระพิมพ์ต่าง ๆ ไว้มากมายหลายพิมพ์ทรง โดยได้นำไปบรรจุกรุไว้ในจังหวัดอยุธยา พระพิมพ์ที่สร้าง ได้แก่ พระพิมพ์สมเด็จก้างปลา ที่หายากที่สุด พระพิมพ์ที่ล้อพระพิมพ์ต่าง ๆ ในจังหวัดลพบุรี เช่น พิมพ์ทรงนารายณ์ทรงปืน พิมพ์พระสามตรีกาย เป็นต้น พระพิมพ์ที่ล้อพระพิมพ์ต่าง ๆ ในจังหวัดอยุธยา เช่น พระพิมพ์หลวงพ่อโต พระขุนแผนไข่ผ่า พระพิมพ์ขุนแผนห้าเหลี่ยม เป็นต้น ซึ่งข้อสังเกตพระของท่านมักจะทำให้มีเนื้อหาหนาและมีรูสองรูไว้ข้างหลังองค์พระ ที่เรียกว่า ทรงหูไห่ ซึ่งพิมพ์ทรงที่เป็นที่นิยมมากก็คือพิมพ์ทรงหลวงพ่อโตหูไห่ ซึ่งเซียนอาวุโสบางท่านกล่าวว่าพระกรุนี้สมเด็จโตอาจมีส่วนร่วมในการสร้างด้วยก็ได้และเชื่อว่าสมเด็จโตได้นำความรู้การสร้างพระพิมพ์วัดทัพข้าวนี้ ไปเป็นพื้นฐานของการสร้างพระสมเด็จของท่านเองในเวลาต่อมา
ข้อสันนิษฐานที่ 2 สร้างสมัยรัชกาลที่ 4 ผู้สร้างคือ สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี จัดสร้างตามคัมภีร์ตามใบลานเงินที่ได้จากการขุดเจดีย์ร้างสามองค์เพื่อค้นหาพระบรมสารีริกธาตุตามลายแทงของวัดปทุมวนาราม ทำให้ได้คัมภีร์ที่สอนทำพระเนื้อผงพุทธคุณตามสูตรสมัยสุโขทัย พระเนื้อผงพุทธคุณยุคสุโขทัยและพระกรุกำแพงเพชรจำนวนมาก ซึ่งขนมาเป็นส่วนหนึ่งของมวลสารที่ผสมในพระสมเด็จวัดระฆังในเวลาต่อมา โดยเรียกพระพิมพ์ที่ท่านได้สร้างไว้นี้ว่าพระสมเด็จพิมพ์โบราณ ที่จัดสร้างตามพิมพ์พระกรุโบราณในยุคสมัยนั้น ที่ท่านได้พบเจอในระหว่างการตระเวณธุดงค์ปฏิบัติธรรม
พระกรุนี้นับว่าเป็นพระผงตระกูลหนึ่งที่น่าสนใจเพราะเป็นพระผงที่มีอายุเก่าแก่กว่าพระสมเด็จและมีเนื้อหาที่จัดจ้านเป็นอย่างมากคล้ายกับพระสมเด็จวัดระฆัง เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาในเนื้อหาพระสมเด็จเก็บสะสมไว้เป็นองค์ครู
5. การค้นพบหลักการสำคัญที่เรียกว่าการศึกษาพระสมเด็จในแนวทางโบราณคดี
ซึ่งหลังจากศึกษามาหลายปี วันหนึ่งได้พบความลับบางประการในเนื้อหามวลสารของพระสมเด็จ ทำให้ได้ข้อสรุปชี้ขาดถึงการพิจารณาเนื้อหามวลสารและธรรมชาติของเก่าของพระสมเด็จได้ในระดับหนึ่ง ทำให้รู้ว่าพระสมเด็จที่เคยคิดว่าแท้โดยดูจากเนื้อหาโดยรวมนั้น จริง ๆ แล้วมวลสารของสมเด็จบางประเภทจะเป็นตัวชี้ขาดซึ่งความเก่าไม่เก่าของพระได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งถึงแม้ว่าเนื้อหาจะดูหนึกนุ่มน่าดูเพียงใดก็ตาม เพราะเนื้อที่ดูนุ่มนวลแท้ 100 เปอร์เซนต์นั้นอาจเป็นพระสมเด็จที่ทำจากเนื้อแท้ ๆ ของพระตระกูลสมเด็จ เช่น พระวัดสามปลื้ม พระวัดคู้สลอด เป็นต้น ทำให้เราอาจเคลิบเคลิ้มกับความจัดของเนื้อหามวลสารดังที่ว่า
จากการศึกษาพบว่าถ้ามวลสารหลักที่กำหนด ในทฤษฎีแห่งโบราณคดี ถ้าเนื้อหาในพระสมเด็จมีความเก่า แต่มวลสารหลักภายในที่กำหนดมันมีอายุน้อยกว่าเนื้อพระโดยรอบ เป็นการชี้ชัดได้ว่า พระองค์นั้นจะต้องเป็นพระสร้างภายหลังและไม่ถึงยุคสมเด็จทั้งสิ้น พระดังกล่าวอาจเป็นพระที่ทำปลอมจากพระตระกูลสมเด็จแท้ ๆ ก็เป็นได้ ซึ่งจากข้อพิจารณาดังกล่าวทำให้สามารถพอพึ่งสายตาตนเองได้บ้างในการพิจารณา พระสมเด็จ และได้ปลดแอกจากการพึ่งสายตาคนอื่นได้ระดับหนึ่ง แล้วเดินออกสนามตลุยเก็บพระสมเด็จได้ด้วยตนเอง
6. การค้นพบพระสมเด็จมีเพียงพอสำหรับทุกคน
จากการได้สำรวจพระสมเด็จในภาคสนามได้พบพระสมเด็จนอกพิมพ์และพระพิมพ์โบราณจำนวนมากที่มีเนื้อหามวลสารแท้ทันยุคพระสมเด็จ แต่มิใช่พิมพ์ที่นิยมของหลวงวิจารณ์ที่ในวงการเช่าหากันในหลักล้าน
ซึ่งจากการได้ศึกษาตำราพระสมเด็จ ของตรียัมปวาย พบว่าท่านได้กล่าวถึง พระพิมพ์โบราณล้อพระยุคเก่า ของสมเด็จโต ที่สร้างโดยช่างชาวบ้าน และพระพิมพ์สมเด็จของช่างสิบหมู่ที่สร้างไว้ก่อนที่หลวงวิจารณ์ฯจะมาสร้างพระพิมพ์สมเด็จพิมพ์นิยม หรือตำราบันทึกประวัติสมเด็จโต โดยหลวงปู่คำ วัดอัมรินทร์ ได้กล่าวถึงพระสมเด็จพิมพ์โบราณและพระสมเด็จพิมพ์อื่น ๆ อีกมากมาย มีเสียงเล่าลือในวงการพระเครื่องกล่าวถึงจำนวนพระสมเด็จที่แท้จริงในยุคปัจจุบันมีอยู่เพียงหลักร้อยองค์ แต่ถ้าศึกษาประวัติการสร้างพระของท่านให้ดี พบว่าได้มีการสร้างพระไว้เป็นจำนวนมาก ทั้งที่วัดระฆัง วัดบางขุนพรหม และวัดเกศไชโย โดยเฉพาะที่วัดระฆังเอาแค่ประวัติของท่านตอนท่านมรณภาพใหม่ ๆ พระสมเด็จที่เหลือจากการแจกของท่านที่วัดระฆัง กล่าวกันว่ามีไม่ต่ำกว่า 12 กระถางอ่างมังกร คิดแล้วที่เดียวก็คงหลายหมื่นองค์ ดังนั้นถ้าท่านเล่นพระสมเด็จสายพิมพ์ทรง พระสมเด็จที่ท่านต้องการบูชา ก็จะมีอยู่ในหลักร้อยองค์ แต่ถ้าท่านเล่นพระสมเด็จสายเนื้อมวลสาร พระสมเด็จที่ท่านต้องการบูชา ก็จะมีอยู่เป็นหมื่นเป็นแสนองค์ สมกับคำว่า พระสมเด็จมีเพียงพอสำหรับทุกคน
ดังนั้นถ้าท่านได้เรียนรู้เรื่องมวลสารสมเด็จโดยลึกซึ้งแล้ว วันหนึ่งถ้าท่านไปพบพระชุดนี้ ราคาไม่แพงมาก ก็ควรเช่าหาเก็บไว้เพื่อการศึกษาได้ หรือเก็บไว้ใช้พุทธคุณก็มี ไม่แพ้พระสมเด็จพิมพ์นิยมหลักล้านเช่นเดียวกัน แต่ถ้าจะให้ผู้อื่นเช่าบูชาควรต้องบอกความจริงว่าไม่ใช่พิมพ์นิยม และราคาคง จะอยู่ในหลักพันหรือหลักหมื่นเท่านั้น
7. ประสบการณ์ดี ๆ จากการบูชาพระสมเด็จ
ประสบการณ์ประทับใจที่ได้รับจากการบูชาพระสมเด็จ คือในประมาณปี พ.ศ. 2547 ข้าพเจ้ากำลังสร้างบ้านใหม่จำเป็นต้องใช้เงินที่ขาดไปประมาณสี่แสนบาท แต่เงินที่มียังไม่พอ แต่ข้าพเจ้าเคยซึ้อบ้านไว้ ที่รังสิต คลองแปด ตีราคาขายไว้สี่แสนบาท แต่ก็ยังไม่มีคนซื้อเพราะในหมู่บ้านดังกล่าวมีคนไปอยู่น้อยมีบ้านร้างเป็นจำนวนมาก และผู้ที่อยู่มีฐานะยากจน แม้จะให้เช่าก็เก็บค่าเช่ายากมาก ข้าพเจ้าหวังว่าจะได้รับเงินก้อนที่ต้อง การจากการขายบ้านหลังนี้ แต่โอกาสขายได้คงยากมาก พอดีวันหนึ่งไปเช่าพระสมเด็จวัดเกศไชโย พิมพ์แข้งหมอนจากงานประกวดพระที่สีลมแกลกาเรีย แต่เป็นพระที่ไม่ค่อยสวยงามมีรอยแซะอยู่มากมายจนแทบ
เสียพิมพ์ แต่เนื้อหาจัดดูง่ายมาก มีอยู่วันหนึ่งข้าพเจ้าจะออกจากบ้านเพื่อไปห้างเดอะมอลล์บางกระปิ ข้าพเจ้ามีความคิดที่จะเอาพระองค์นี้ไปเลี่ยมทอง แต่ข้าพเจ้าก็มีความลังเลเพราะพระองค์นี้ไม่ค่อยสวยงาม ระหว่างที่กำลังลังเลอยู่นั้นก็มีโทรศัพท์เข้ามาบอกว่ามีคนต้องการซื้อบ้านที่รังสิต ทำให้วันนั้นพอได้ข่าวดี ข้าพเจ้าจึงได้ไปเลี่ยมทองพระองค์ดังกล่าว และในที่สุดข้าพเจ้าสามารถตกลงขายบ้านดังกล่าวได้ในเวลาต่อมา โดยได้รับเงินที่จะสร้างบ้านได้พอดีอย่างปาฎิหารย์ ด้วยบารมีแห่งสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
ประสบการณ์อีกครั้งหนึ่งคือเมื่อข้าพเจ้าได้ไปทัศนาจรแถบภาคอีสาน ขากลับได้ผ่านวัดหลวงพ่อโตที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ อำเภอสีคิ้ว จ.นครราชสีมา ที่จัดสร้างโดยสรพงศ์ ชาตรี ได้อธิษฐานต่อองค์สมเด็จพุฒาจารย์โต ว่าอยากจะสร้างพระสมเด็จสักรุ่นหนึ่ง ชื่อว่าพระสมเด็จสี่แผ่นดิน เป็นพระสมเด็จที่รวบรวมมวลสารจากประเทศไทย อินเดีย เนปาลและศรีลังกา เพื่อเป็นพุทธบูชา ข้าพเจ้าได้เคยเดินทางไปยังประเทศอินเดียและเนปาลแล้ว และได้รวบรวมเก็บมวลสาระสำคัญมาจากสังเวชนียสถาน 4 และที่ศักสิทธิ์ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก แต่ข้าพเจ้ายังไม่ได้สร้างพระสมเด็จสี่แผ่นดินเพราะขาดมวลสารสำคัญจากศรีลังกาที่จะต้องใช้เงินในการเดินทางประมาณห้าหมื่นบาท ปรากฎว่าเมื่อกลับมาข้าพเจ้าได้โชคใหม่คือถูกหวยออมสินรางวัลที่ 2 100,000 บาท ซึ่งปัจจุบันข้าพเจ้ากำลังรอเดินทางไปยังประเทศศรีลังกา เพื่อทำปนิธานที่อธิษฐานไว้ให้เป็นจริง นับว่าเป็นความประทับใจอีกครั้งหนึ่งที่ข้าพเจ้ามีต่อบารมีแห่งสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
8. สาเหตุการจัดตั้งศูนย์ศึกษามวลสารพระสมเด็จฯ
แต่การที่ข้าพเจ้าได้สะสมพระสมเด็จของสามวัดหลักและพระตระกูลสมเด็จแทบทุกวัดในสภาพพระสึกและเศษหักต่างๆที่ขาดความสวยงามแต่มวลสารจัดดูง่ายในเนื้อหาที่เรียกหา กันว่าพระสมเด็จเนื้อครู ไว้เป็นจำนวนมากกว่าสิบกล่องใหญ่ ตอนแรกข้าพเจ้าคิดว่าพระสมเด็จเหล่านั้นเมื่อได้ศึกษาผ่านไปแล้วก็คิดว่าหลังจากได้ความรู้จากการศึกษาเนื้อหามวลสารแล้วจะขายออกไปราคาถูก ๆ เพื่อเอาทุนคืน
แต่ข้าพเจ้าเห็นว่าปัจจุบันมีผู้ที่นิยมพระสมเด็จเป็นจำนวนมากต้องประสบความยากลำบากในการศึกษาพระสมเด็จด้านการพิจารณาเนื้อหามวลสารและธรรมชาติความเก่าเนื่องจากขาดตัวอย่าง พระสมเด็จเนื้อครูเพื่อที่จะนำมาศึกษา เชิงเปรียบเทียบผ่านเศษหักของพระสมเด็จทั้งสามวัดและพระกูลสมเด็จ ซึ่งในเรื่องเนื้อหาและธรรมชาติความเก่าของพระสมเด็จนั้น ตรียัมปวายได้ให้ข้อเตือนใจนักนิยมพระสมเด็จว่า จุดชี้ขาดของพระสมเด็จนั้นวัดกันที่เนื้อหาเป็นประเด็น
สำคัญเหนือกว่าพิมพ์ทรง ไม่มีพระสมเด็จแท้องค์ใด ที่พิมพ์ใช่แต่เนื้อไม่ใช่ หรือพิมพ์ไม่ใช่แต่เนื่อใช่ ข้าพเจ้าในฐานะที่ทำงานเป็นครูบาอาจารย์ก็เกิดแนวความคิดว่า ถ้าบรรดาเศษแตกหักและพระเครื่องตระกูลสมเด็จเนื้อจัด ๆ ที่เก็บสะสมไว้เพื่อการศึกษาด้วยส่วนตัวนั้น แทนที่จะขายออกไปเพื่อก่อประโยชน์เฉพาะตนคนเดียว สิ่งที่ข้าพเจ้าเก็บสะสมไว้นี้อาจจะเป็นประโยชน์ต่อนักนิยมพระสมเด็จคนอื่น ๆ ที่ยังเดินหลงทางอยู่ในความมืด ไม่มีโอกาส ที่ดีที่จะได้ศึกษาเนื้อแท้ ๆ ของพระสมเด็จเช่นเดียวกับข้าพเจ้า อย่างน้อยก็อาจทำให้ผู้ที่สนใจจะได้รับประสบการณ์ตรงจากการที่ได้ศึกษาเนื้อหามวลสารแท้ ๆ และสภาพความเก่าตามธรรมชาติของพระสมเด็จ ที่อาจพอที่จะช่วยเหลือให้นักนิยมพระสมเด็จ
ให้มีสายตาที่พอจะสามารถวินิจฉัยประเมินถึงวรรณะแห่งเนื้อหามวลสารแท้ ๆ และสภาพความเก่าตามธรรมชาติของพระสมเด็จ ได้ด้วยตนเองในระดับหนึ่งเช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าได้รับ
ข้าพเจ้าจึงได้จัดตั้งศูนย์ศึกษามวลสารพระสมเด็จในประเทศไทยขึ้นมาที่โรงเรียนถนอมพิศวิทยา เพื่อจัดเป็นศูนย์กลางในการศึกษามวลสารพระสมเด็จและพระตระกูลสมเด็จในประเทศไทย ตั้งแต่ยุคก่อนพระสมเด็จจนถึงพระสมเด็จ ยุค พ.ศ.2510 โดยเปิดหลักสูตรเซียนมวลสารสมเด็จ ขึ้น ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางการศึกษาสำหรับการศึกษาวิจัยเชิงเปรียบเทียบเนื้อหามวลสารและสภาพธรรมชาติของพระสมเด็จขึ้นมา โดยเป็นหลักสูตรที่เน้นการศึกษาจากประสบการณ์ตรงที่ผู้อบรม ได้มีโอกาสศึกษาพระสมเด็จด้วยการพิจารณาเนื้อหาและธรรมชาติความเก่าเชิงเปรียบเทียบผ่านเศษแตกหักของพระสมเด็จทั้งสามวัดและพระตระกูลสมเด็จ ประสบการณ์ที่ได้รับจะเป็นครูที่ดีที่จะติดตัวท่านไปตลอดกาล
สำหรับค่าฝึกอบรมที่ได้จะนำไปมอบเป็นการกุศลให้กับมูลนิธิสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังษี วัดระฆังโฆสิตาราม และสมทบทุนซื้อสื่อการสอนในโครงการพิพิธภัณฑ์วิทยาการ โรงเรียนถนอมพิศวิทยา
ข้าพเจ้าหวังว่าหลักสูตรดังกล่าวจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักนิยมพระเครื่องที่สนใจศึกษาความรู้ในเนื้อหามวลสารและสภาพธรรมชาติแห่งพระสมเด็จผ่านเศษแตกหักของสมเด็จสามวัดและพระตระกูลสมเด็จ และเป็นการเผยแพร่ ชื่อเสียงเกียรติคุณของสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสีให้ลือเลื่องตราบไปชั่วกาลนาน
อาจารย์อริยะ สุพรรณเภษัช
วทบ. พบ.ม. ศศ.ม.
ผู้อำนวยการโรงเรียนถนอมพิศวิทยา
ผู้รับใบอนุญาตสถานรับเลี้ยงเด็กถนอมพิศเบบี้โฮม
ผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีบำบัด
นักพลังจักรวาลระดับ 7 พิเศษ
ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษามวลสารพระสมเด็จในประเทศไทย
หลักสูตรเซียนมวลสารสมเด็จ
การศึกษาพระสมเด็จด้วยการพิจารณาเนื้อหาและธรรมชาติความเก่าเชิงเปรียบเทียบ
ผ่านเศษแตกหักของพระสมเด็จทั้งสามวัดและพระตระกูลสมเด็จ
เนื่องจากปัจจุบันพระสมเด็จที่จัดสร้างโดยสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ทั้งสามวัด ได้แก่วัดระฆัง วัดบางขุนพรหม และวัดเกศไชโย มีค่าความนิยมสูงและเป็นที่สุดยอดแห่งการแสวงหาของนักนิยมสะสมพระเครื่องและบุคคลทั่วไป เป็นอย่างมาก ซึ่งการพิจารณาพระสมเด็จ จะศึกษาจากหลักใหญ่ ๆ ได้แก่ พิมพ์ทรงหนึ่ง เนื้อหามวลสารหนึ่ง และธรรมชาติความเก่าหนึ่ง ซึ่งการที่จะให้เกิดความกระจ่างในการศึกษาพระสมเด็จให้พอวินิจฉัยได้ด้วยตนเอง ต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการศึกษาข้อมูล ทั้งยังต้องมีโอกาสได้ผ่านตาพระสมเด็จแท้ ๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งในปัจจุบันมีความยากลำบากอย่างยิ่งที่จะหาตัวอย่างพระสมเด็จแท้ ๆ สักองค์มาได้พิจารณาเนื่องจากค่านิยมของพระสมเด็จทั้งสามวัดมีราคาสูงมากถึงหลักล้านบาท ทำให้เกิดอุปสรรคยากลำบากต่อการศึกษาความรู้เกี่ยวกับพระสมเด็จเป็นอย่างมาก
ซึ่งการศึกษาพิจารณาพระสมเด็จที่กล่าวมา จะศึกษาจากหลักใหญ่ ๆ ได้แก่ พิมพ์ทรงหนึ่ง เนื้อหามวลสารหนึ่ง และธรรมชาติความเก่าหนึ่ง ซึ่งการศึกษาในเรื่องของพิมพ์ทรงของพระสมเด็จที่มีมากมายหลายพิมพ์ทรง แต่ละพิมพ์ทรงก็มีหลายบล๊อก ซึ่งอาจศึกษาได้จากหนังสือตำราต่าง ๆ ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก
เนื่องจากการปลอมพระสมเด็จในด้านพิมพ์ทรงปัจจุบันใช้เทคนิคการปลอมอันทันสมัยเรื่องการถอดพิมพ์ให้เหมือนเกือบ 100 % แม้แต่เหรียญเก่า ๆ ของคณาจารย์ที่มีตำหนิในพิมพ์ทรงมากมายเพื่อการพิจารณา ก็มีการทำปลอมด้วยบล็อกคอมพิวเตอร์ ก็ยังทำได้เหมือนจนผู้ชำนาญการแยกของแท้กับของปลอมโดยพิจารณาจากตำหนิในพิมพ์ทรงก็ดูไม่ค่อยออก เพราะฉะนั้นในพิมพ์ทรงพระสมเด็จที่ไม่ได้มีตำหนิซับซ้อนเมื่อเทียบกับเหรียญคณาจารย์ ก็ทำให้ไม่ยากต่อการปลอมแปลงพิมพ์ทรงแต่อย่างใด ทำได้ง่ายมาก
ซึ่งท่านปรมาจารย์แห่งการศึกษาพระสมเด็จ ตรียัมปวายได้ให้ข้อเตือนใจนักนิยมพระสมเด็จว่า จุดชี้ขาดของพระสมเด็จนั้นวัดกันที่เนื้อหามวลสารและธรรมชาติความเก่า เป็นประเด็นสำคัญเหนือกว่าพิมพ์ทรง ดังนั้นการศึกษาในเรื่องเนื้อหาและธรรมชาติความเก่าของพระสมเด็จเป็นสิ่งที่น่าสนใจในการศึกษา เพราะว่าถ้าแม่นเนื้อหามวลสารและธรรมชาติความเก่าก็จะมีพื้นฐานที่ดีต่อการพิจารณาพระสมเด็จเป็นอย่างมาก
แต่การพิจารณาในเรื่องเนื้อหามวลสารและธรรมชาติความเก่าของพระสมเด็จ มีความยากลำบากต่อการศึกษาเป็นอย่างมาก เพราะจะต้องรวบรวมตัวอย่างของเนื้อหาของพระสมเด็จทั้งสามวัดรวมทั้งพระตระกูลสมเด็จทุกตระกูลเพื่อเป็นพื้นฐานของการวิจัยเชิงเปรียบเทียบด้านเนื้อหา โดยพิจารณาคำนวณอายุของเนื้อผงจากการประเมินทางสายตา เพื่อค้นหา ความแตกต่างระหว่างพระสมเด็จแท้กับพระสมเด็จปลอม และ พระสมเด็จแท้กับพระตระกูลสมเด็จที่เนื้อจัด
ดังนั้นเพื่อให้เกิดความกระจ่างในการพิจารณาพระสมเด็จในด้านเนื้อหามวลสารและธรรมชาติความเก่า ทำให้อาจารย์อริยะ สุพรรณเภษัช ผู้ช่วยครูใหญ่โรงเรียนถนอมพิศวิทยา ประธานชมรมอนุรักษ์มรดกไทย ที่เคยมีประสบการณ์จากการที่เคยศึกษาพระกรุเก่าโบราณเนื้อดิน-เนื้อชิน ขณะเมื่อเริ่มศึกษาจะชอบซื้อพระกรุที่สภาพสึก ๆ หรือเศษหักของพระกรุแท้ ๆ มาศึกษา ซึ่งจะทำให้มีความรู้เกี่ยวกับเนื้อหามวลสารและธรรมชาติความเก่าของพระได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้สามารถวินิจฉัยถึงสภาพความเก่าและประเมินอายุของพระนั้น ๆ ได้ว่าเป็นพระกรุของเมืองไหน ยุคใด สมัยใด จึงได้นำหลักการดังกล่าวมาใช้เมื่อต้องการศึกษาพระสมเด็จ
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 เป็นต้นมาจึงได้พยายามรวบรวมพระตระกูลสมเด็จทุกสภาพเอาไว้จำนวนมากเพื่อนำมาศึกษาโดยเช่าหาพระสมเด็จแท้ ๆ ที่แตกหักและพระตระกูลสมเด็จทุกสภาพจากนิตยสารพระเครื่องต่าง ๆ และจากสนามพระทั่วไป เพื่อนำมาพิจารณาวิจัยในเชิงเปรียบเทียบอายุความเก่า แต่ในปัจจุบัน พ.ศ. 2549 พบว่าสนามพระทั่วไปและพระที่ออกให้บูชาตามนิตยสารพระเครื่องที่เคยมีพระเนื้อผงตระกูลสมเด็จพิมพ์ต่าง ๆ ก็ไม่มีพระสมเด็จยุคเก่าให้บูชา ทำให้เกิดความยากลำบากต่อการศึกษามากขึ้น
ซึ่งหลังจากศึกษามาหลายปี วันหนึ่งได้พบความลับบางประการในเนื้อหามวลสารของพระสมเด็จ ทำให้ได้ข้อสรุปชี้ขาดถึงการพิจารณาเนื้อหามวลสารและธรรมชาติของเก่าของพระสมเด็จได้ในระดับหนึ่ง ทำให้รู้ว่าพระสมเด็จที่เคยคิดว่าแท้โดยดูจากเนื้อหาโดยรวมนั้น จริง ๆ แล้วมวลสารของสมเด็จบางตัวจะเป็นตัวชี้ขาดซึ่งความเก่าไม่เก่าของพระได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งถึงแม้ว่าเนื้อหาจะดูหนึกนุ่มน่าดูเพียงใดก็ตาม ถ้ามวลสารที่เห็นมันผิดจากที่กำหนดแล้ว พระองค์นั้นจะต้องเป็นพระสร้างภายหลังและไม่ถึงยุคสมเด็จทั้งสิ้น
เนื่องจากการที่อาจารย์อริยะได้สะสมพระสมเด็จของสามวัดหลักและพระตระกูลสมเด็จแทบทุกวัดในสภาพพระสึกและเศษหักต่าง ๆที่ขาดความสวยงามแต่มวลสารจัดดูง่ายในเนื้อหาที่เรียกหากันว่าพระสมเด็จเนื้อครู ไว้เป็นจำนวนมากกว่าสิบกล่องใหญ่ ที่ใช้เวลารวบรวมมามากกว่าสามปี ตอนแรกาคิดว่าพระสมเด็จเหล่านั้นเมื่อได้ศึกษาผ่านไปแล้วก็คิดจะขายออกไปราคาถูก ๆ เพื่อเอาทุนคืน
แต่อาจารย์อริยะ เห็นว่าปัจจุบันมีผู้ที่นิยมพระสมเด็จเป็นจำนวนมากต้องประสบความยากลำบากในการศึกษาพระสมเด็จด้านการพิจารณาเนื้อหาและธรรมชาติความเก่าเนื่องจากขาดตัวอย่างพระสมเด็จเนื้อครูเพื่อที่จะนำมาศึกษา ดังนั้น การศึกษาเชิงเปรียบเทียบผ่านเศษหักของพระสมเด็จทั้งสามวัดและพระกูลสมเด็จ อาจเป็นแนวทางหนึ่งที่พอช่วยเหลือให้นักนิยมพระสมเด็จให้มีสายตาที่พอจะสามารถวินิจฉัยและประเมินถึงสภาพความเก่าของพระสมเด็จได้ด้วยตนเองในระดับหนึ่ง ซึ่งข้าพเจ้าจึงได้เปิดหลักสูตรเซียนมวลสารสมเด็จ เพื่อศึกษาพระสมเด็จด้วยการพิจารณาเนื้อมวลสารและธรรมชาติความเก่าเชิงเปรียบเทียบผ่านเศษแตกหักของพระสมเด็จทั้งสามวัดและพระตระกูลสมเด็จขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจจะศึกษาพระสมเด็จในแนวทางดังกล่าวกับ อาจารย์อริยะ สุพรรณเภษัช โดยผู้สนใจในการศึกษาอาจจะศึกษาพระสมเด็จเนื้อครูทุกองค์ผ่านทางเวปไซต์ศูนย์ศึกษามวลสารพระสมเด็จในประเทศไทย ที่ตั้งอยู่บนเวปไซต์ของโรงเรียนถนอมพิศวิทยาได้ตามสะดวกโดยไม่คิดมูลค่า หรือถ้าต้องการศึกษาพิจารณาส่องดูเนื้อหามวลสารจากองค์ จริง ก็สามารถติดต่อเพื่อฝึกอบรมในหลักสูตรเซียนมวลสารสมเด็จ ในการควบคุมของ ศูนย์ศึกษามวลสารพระสมเด็จในประเทศไทย โดยติดต่อกับอาจารย์อริยะ สุพรรณเภษัช โดยตรง
****************************************************************************
หลักสูตรที่เปิดการฝึกอบรม
หลักสูตรที่เปิดการฝึกอบรม
1. หลักสูตรเซียนมวลสารสมเด็จระดับพื้นฐาน 1
ศึกษาพื้นฐานการพิจารณามวลสารพระตระกูลพระสมเด็จเนื้อครูยุคต่าง ๆ
เนื้อหาหลักสูตร : ศึกษาพื้นฐานการพิจารณามวลสารพระตระกูลพระสมเด็จเนื้อครูยุคต่าง ๆ
จำนวน 4 ยุค ได้แก่
· ยุค 1 พระที่มีอายุมากกว่าพระสมเด็จ
พระสมเด็จอรหัง พระวัดพลับ พระวัดโค่ง พระกรุวัดทัพข้าว พระกรุวัดสามปลื้ม
· ยุค 3 พระที่สร้างภายหลังพระสมเด็จ 2414-2450
พระสมเด็จปิลันทร์ พระวัดรังษี พระสมเด็จวัดเฉลิมพระเกียรติ พระกรุวัดเงินคลองเตย
พระสมเด็จวัดโพธิ์เกรียบ พระสมเด็จหลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร พระสมเด็จวัดทรงประมูล
พระวัดปากบาง พระสมเด็จหลวงปู่ปั้น วัดสะพานสูง พระสมเด็จ หลวงปู่อ้น วัดบางจาก พระสมเด็จกรุวัดพระแก้ว พระกรุวัดอัมพวา
· ยุค 4 พระที่สร้างภายหลังพระสมเด็จ 2450-2480
พระสมเด็จ เจ้าคุณสุนทร วัดกัลยา พระสมเด็จ พระครูสังฆ์ วัดอินทรวิหาร พระสมเด็จแช่น้ำมนต์ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี พระสมเด็จมฤคทายวัน พระสมเด็จหลวงพ่อหม่น วัดคลองสิบสอง พระสมเด็จหลวงพ่อโชติ วัดตะโน พระกรุวัดคู้สลอด จ.อยุธยา พระสมเด็จพิมพ์อรหัง กรุวัดชนะสงคราม
· ยุค 5 พระที่สร้างภายหลังพระสมเด็จ 2481-2594
พระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆัง ยุคต้น 2485 พระสมเด็จพระครูมูล พิมพ์ทรงเจดีย์ 2485 พระชุดสระหลวงปู่เผือก รุ่นอินโดจีน พระสมเด็จหลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ พิมพ์เข่าบ่วง พระสมเด็จหลวงปู่รอด วัดเกริ่น พระกรุวัดอัมพวัน พระสมเด็จหลวงปู่เลี่ยม วัดศรีเรืองบุญ
· ยุค 6 พระที่สร้างภายหลังพระสมเด็จ 2494-2510
พระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆัง ยุคกลาง 2495 พระสมเด็จพระครูมูล พิมพ์มีหน้าตา 2495
พระสมเด็จหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว รุ่นสร้างเจดีย์ 2496 พระสมเด็จเผ่า วัดอินทรวิหาร 2495
พระสมเด็จ วัดประสาทบุญญาวาศ 2506 พระสมเด็จหลวงปู่ลำภู วัดอินทรวิหาร 2502
พระสมเด็จหลวงตาพัน วัดอินทรวิหาร 2502
ระยะเวลาในการฝึกอบรม : 6 ชั่วโมง
ค่าธรรมเนียมในการฝึกอบรม : 4,000 บาท
2.หลักสูตรเซียนมวลสารสมเด็จระดับพื้นฐาน 2
ศึกษาการพิจารณามวลสารพระสมเด็จสามโซน ได้แก่ พระสมเด็จวัดระฆัง และพระสมเด็จวัดเกศไชโย โซนสีน้ำตาล(น้ำมันตัวอิ๊วมาก) โซนสีเหลือง(น้ำมันตังอิ๊วปานกลาง) และโซนสีขาว(น้ำมันตังอิ๊วน้อย) ตลอดจนหลักการสังเกตมวลสารที่เป็นแก่นแกนหลักที่สำคัญในเนื้อพระสมเด็จ
ระยะเวลาในการฝึกอบรม : 3 ชั่วโมง
ค่าธรรมเนียมในการฝึกอบรม : 2,000 บาท
3.หลักสูตรเซียนมวลสารสมเด็จระดับสูง
เนื้อหาหลักสูตร
1) ด้านความรู้ทางด้านธรรมชาติแห่งพิมพ์ทรง
: การพิจารณาศึกษาสภาพธรรมชาติของเส้นสายพิมพ์ทรงของพระสมเด็จ
: การพิจารณาศึกษาเพื่อทราบความแตกต่างระหว่างพระสมเด็จที่ถอดพิมพ์กับพระสมเด็จไม่ถอดพิมพ์เพื่อใช้ในการแยกแยะพระสมเด็จเก๊เก่าที่เนื้อหามวลสารดีแต่ส่วนใหญ่ร้อยละ99 มักจะถอดพิมพ์มา กับพระสมเด็จแท้พิมพ์ดั้งเดิม ความรู้จากเรื่องนี้เพียงคำพูดเคล็ด2-3 คำ จะทำให้ท่านปลอดภัยจากพระสมเด็จเก๊เก่าได้เกือบ 100 %
: การพิจารณาศึกษาพระสมเด็จสมเด็จที่ผ่านการเซาะ การกรอ การแกะ เพื่อใช้ในการแยกแยะพระสมเด็จแท้ กับพระตระกูลสมเด็จเนื้อจัดที่ผ่านการเซาะ การกรอ การแกะ ถ้าพิจารณาเฉพาะเนื้อหามวลสารอาจจะหลงอุปทานว่าเป็นพระสมเด็จได้
2) ด้านความรู้ทางด้านสภาพธรรมชาติ
:การพิจารณาศึกษาสภาพธรรมชาติต่าง ๆ ทางด้านหลังของพระสมเด็จ เพื่อชี้ชัดความเก่าแก่ตามธรรมชาติ เช่น รอยปริแยก รอยหนอนด้น รูพรุนปลายเข็ม ฯ
:การพิจารณาศึกษาลักษณะต่าง ๆ ทางด้านหลังของพระสมเด็จ ทั้ังที่ที่เกิดจากร่องรอยของการสร้างพระสมเด็จและสภาพการเปลี่ยนแปลง เช่น สภาพหลังเรียบ หลังสังขยา หลังรอยปาด ฯ
3) ด้านความรู้เกี่ยวกับการพิจารณารอยแตกหักของพระสมเด็จ
: การพิจารณาศึกษาเนื้อในพระพระสมเด็จและพระตระกูลสมเด็จที่เกี่ยวข้อง จากตัวอย่างชิ้นส่วนพระสมเด็จและพระตระกูลสมเด็จที่แตกหัก
4) ด้านความรู้เกี่ยวกับการพิจารณาพระสมเด็จโดยใช้เคล็ดลับด้านประสาทสัมผัส
: การพิจารณาพระสมเด็จโดยใช้เคล็ดลับด้านประสาทสัมผัส แม้แต่หลับตาจับพระสมเด็จลูบคลำอยู่ในอุ้งมือก็สามารถพิจารณาพระว่าเก๊แท้อย่างหยาบ ๆ ได้
5) ด้านความรู้เกี่ยวกับมวลสารเงินล้านที่ใช้ในการพิจารณาพระสมเด็จ
: การพิจารณาให้รับรู้ถึงมวลสารเงินล้าน ในวงการพระสมเด็จระดับสูงถือว่าเป็นความลับสุดยอด ซึ่งถือว่าเป็นมวลสารสำคัญสุดยอดที่พบเฉพาะพระสมเด็จเท่านั้น การค้นพบมวลสารดังกล่าวเป็นปัจจัยสำคัญของการจ่ายเงินนับล้านบาทของเซียนใหญ่เพื่อเช่าบูชาพระสมเด็จที่แท้อย่างมั่นใจ
ระย
ระเวลาในการฝึกอบรม : 3 ชั่วโมง
ค่าธรรมเนียมในการฝึกอบรม : 4,000 บาท
*************************************************************
สถานที่อบรม : ศูนย์ศึกษามวลสารพระสมเด็จในประเทศไทย อาคารห้องสมุดชั้น 1
โรงเรียนถนอมพิศวิทยา
ติดต่อฝึกอบรม: อาจารย์อริยะ สุพรรณเภษัช
ผู้อำนวยการโรงเรียนถนอมพิศวิทยา
ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษามวลสารพระสมเด็จฯ
โทร 094-5257069
หมายเหตุ จำนวนผู้เข้ารับการฝึกอบรม ครั้งละ 1-2 คน เพื่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการฝึกอบรม
**************************************************************
หลักสูตรเซียนมวลสารสมเด็จ 081-8033630
โครงการศึกษาพระสมเด็จ
ด้วยการพิจารณาเนื้อหาและธรรมชาติความเก่าเชิงเปรียบเทียบ
ผ่านเศษแตกหักของพระสมเด็จทั้งสามวัดและพระตระกูลสมเด็จ
ยุค 1 พระที่มีอายุมากกว่าพระสมเด็จ
|
ยุค 2 พระร่วมสมัยพระสมเด็จ
|
พระสมเด็จอรหัง
|
พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์นิยม
|
พระวัดพลับ - พระวัดโค่ง
|
พระสมเด็จ วัดบางขุนพรหม
|
พระกรุวัดเงินคลองเตย
|
พระสมเด็จ วัดเกศไชโย พิมพ์นิยม
|
พระกรุวัดทัพข้าว
|
พระสมเด็จ วัดเกศไชโย พิมพ์ตลก
|
พระกรุวัดสามปลื้ม
|
พระสมเด็จ วัดบางขุนพรหม กรุเจดีย์เล็ก
|
ยุค 3 พระที่สร้างภายหลังพระสมเด็จ 2414-2430
|
ยุค 4 พระที่สร้างภายหลังพระสมเด็จ 2430-2480
|
พระสมเด็จปิลันทร์ วัดระฆัง
|
พระวัดรังษี วัดบวรนิเวศ
|
พระสมเด็จหลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร
|
พระสมเด็จกรุวัดพระแก้ว
|
พระสมเด็จวัดเฉลิมพระเกียรติ
|
พระสมเด็จ เจ้าคุณสุนทร วัดกัลยา
|
พระวัดรังษี
|
พระสมเด็จ พระครูสังฆ์ วัดอินทรวิหาร
|
พระสมเด็จ วัดโพธิ์เกรียบ
|
พระสมเด็จแช่น้ำมนต์ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
|
พระกรุวัดอัมพวา
|
พระสมเด็จหลวงพ่อหม่น วัดคลองสิบสอง
|
พระสมเด็จ หลวงปู่อ้น วัดบางจาก
|
พระสมเด็จมฤคทายวัน หลวงปู่นาค วัดหัวหิน
|
พระสมเด็จ หลวงปู่ทรัพย์ วัดปากบาง
|
พระกรุวัดคู้สลอด
|
พระสมเด็จ หลวงปู่ปั้น วัดสะพานสูง
|
พระสมเด็จกรุวัดชนะสงคราม พิมพ์สมเด็จอรหัง
|
ยุค 5 พระที่สร้างภายหลังพระสมเด็จ 2481-2594
|
ยุค 6 พระที่สร้างภายหลังพระสมเด็จ 2495-2506
|
พระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆัง ยุคต้น 2485
|
พระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆัง ยุคกลาง 2495
|
พระสมเด็จพระครูมูล วัดสุทัศน์ พิมพ์ทรงเจดีย์
|
พระสมเด็จพระครูมูล วัดสุทัศน์ พิมพ์มีหน้าตา
|
พระชุดสระหลวงปู่เผือก รุ่นอินโดจีน
|
พระสมเด็จหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว รุ่นสร้างเจดีย์
|
พระสมเด็จหลวงพ่อครื้น วัดสังโฆพิมพ์เข่าบ่วง
|
พระสมเด็จเผ่า วัดอินทรวิหาร
|
พระสมเด็จหลวงปู่รอด วัดเกริ่น
|
พระสมเด็จพิมพ์พระครูมูล วัดประสาทบุญญาวาศ
|
พระสมเด็จหลวงปู่เลี่ยม วัดศรีเรืองบุญ
|
พระสมเด็จวัดเกศไชโย วัดรุ่นสร้างเขื่อนปี 2495
|
พระกรุวัดอัมพวัน
|
พระสมเด็จหลวงพ่อโชติ วัดตะโน
|
หมายเหตุ พระสมเด็จ และพระตระกูลสมเด็จที่กำหนดไว้ดังกล่าวผู้ที่ศึกษาพึงหาโอกาสพิจารณาเชิงเปรียบเทียบเนื้อหา
มวลสารของพระสมเด็จในแต่ละยุค โดยให้แยกแยะยุคสมัยและเนื้อหาของพระสมเด็จทั้งหกยุคออกจากกันให้ได้
|
พระสมเด็จเนื้อครู ยุคที่ 1
เป็นพระเนื้อผงพุทธคุณที่สร้างก่อนพระสมเด็จวัดระฆัง
พระเนื้อครูหมายเลข 1 พระหลวงพ่อโต กรุวัดทัพข้าว ยุครัตนโกสินทร์ โซนเนื้อเหลือง พระเนื้อจัดมากเหมือนสมเด็จวัดระฆัง
พระเนื้อครูหมายเลข 2 พระหลวงพ่อโต กรุวัดทัพข้าว ยุครัตนโกสินทร์ โซนเนื้อขาวแก่ปูน
พระเนื้อครูหมายเลข 3 พระกรุวัดสามปลื้ม โซนเนื้อขาว เนื้อพระเปราะแตกหักง่าย เนื่องจากใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น น้ำอ้อยเป็นตัวประสาน
พระเนื้อครูหมายเลข 4 พระกรุวัดเงินคลองเตย โซนเนื้อสีขาว
พระเนื้อครูหมายเลข 5 ชิ้นส่วนท่อนล่างพระสมเด็จอรหัง โซนเนื้อขาวจัดมาก
พระเนื้อครูหมายเลข 6 พระวัดพลับ โซนเนื้อขาว
พระเนื้อครูหมายเลข 7 พระวัดโค่ง โซนเนื้อขาวแก่ผงวิเศษ เนื้อจัดมาก เชื่อว่าสร้างโดยผู้สร้างเดียวกับพระวัดพลับ แต่ต่างพิมพ์ทรงเท่านั้น
พระเนื้อครูหมายเลข 8 พระสมเด็จพิมพ์ก้างปลาหลวงตาแสง วัดมณีชลขันธ์ อาจารย์ของสมเด็จโตฯ โซนเนื้อสีเหลืองจัดมาก
เนื้อจัดแก่มวลสารมาก
พระเนื้อครูหมายเลข 9 พระกรุวัดท้ายตลาด
พระเนื้อผงยุคที่ 2
พระสมเด็จวัดระฆัง พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม พระสมเด็จวัดเกศไชโย
|
|
|
พระเนื้อครูหมายเลข 10 พระสมเด็จวัดระฆังสภาพสึกเหลือแต่แก่น โซนเนื้อสีขาวแก่ปูน
พระเนื้อครูหมายเลข 11 ชิ้นส่วนพระสมเด็จวัดบางขุนพรหมแกะพิมพ์คะแนน โซนเนื้อสีขาวแก่ปูน
พระเนื้อครูหมายเลข 12 ชิ้นส่วนพระสมเด็จวัดเกศไชโยพิมพ์ตลก โซนเนื้อสีเหลือง
พระเนื้อครูหมายเลข 13 พระสมเด็จวัดเกศไชโยพิมพ์ 7 ชั้น B โซนเนื้อสีน้ำตาล เนื้อจัดมาก
พระเนื้อครูหมายเลข 14 ชิ้นส่วนพระสมเด็จวัดระฆังโซนเนื้อสีเหลือง เนื้อจัดมาก
พระเนื้อครูหมายเลข 15 ชิ้นส่วนพระสมเด็จวัดระฆังแกะเป็นพิมพ์สมเด็จ โซนเนื้อสีขาว
|
ยุคที่ 3พระผงที่สร้างระหว่างพ.ศ. 2415-2430
|
|
|
พระเนื้อครูหมายเลข 16 พระสมเด็จกรุวัดโพธิ์เกรียบ
พระเนื้อครูหมายเลข 17 พระสมเด็จหลวงปู่ปั้น วัดสะพานสูง
พระเนื้อครูหมายเลข 18 พระสมเด็จหลวงปู่ปั้น วัดสะพานสูง
พระเนื้อครูหมายเลข 19 ชิ้นส่วนพระสมเด็จหลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร
พระเนื้อครูหมายเลข 20 ชิ้นส่วนพระสมเด็จหลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร
พระเนื้อครูหมายเลข 21 พระสมเด็จหลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร
พระเนื้อครูหมายเลข 22 พระสมเด็จหลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร
พระเนื้อครูหมายเลข 23 พระสมเด็จหลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร
พระเนื้อครูหมายเลข 24 ชิ้นส่วนพระสมเด็จวัดเฉลิมพระเกียรติ
พระเนื้อครูหมายเลข 25 พระสมเด็จวัดเฉลิมพระเกียรติ
พระเนื้อครูหมายเลข 26 พระสมเด็จวัดเฉลิมพระเกียรติ
พระเนื้อครูหมายเลข 27 พระสมเด็จหลวงปู่อ้น วัดบางจาก
พระเนื้อครูหมายเลข 28 พระสมเด็จหลวงปู่อ้น วัดบางจาก
พระเนื้อครูหมายเลข 29 พระสมเด็จวัดปิลันทร์ วัดระฆัง
พระเนื้อครูหมายเลข 31 พระลีลา กรุวัดปากบาง
พระเนื้อครูหมายเลข 31 พระพิมพ์เล็บมือ กรุวัดอัมพวา
พระเนื้อครูหมายเลข 32 พระวัดรังสี
พระเนื้อครูหมายเลข 33 พระวัดรังสี
ยุคที่ 4พระผงที่สร้างระหว่างพ.ศ. 2431-2480
|
|
|
พระเนื้อครูหมายเลข 34 พระสมเด็จกรุวัดพระแก้ว
พระเนื้อครูหมายเลข 35 พระสมเด็จเจ้าคุณสุนทร วัดกัลยา
พระเนื้อครูหมายเลข 36 พระสมเด็จเจ้าคุณสุนทร วัดกัลยา
พระเนื้อครูหมายเลข 37 พระสมเด็จเจ้าคุณสุนทร วัดกัลยา
พระเนื้อครูหมายเลข 38 พระสมเด็จพระครูสังส์ วัดอินทรวิหาร
พระเนื้อครูหมายเลข 39 พระสมเด็จพระครูสังฆ์ วัดอินทรวิ
พระเนื้อครูหมายเลข 40 พระสมเด็จหลวงพ่อหม่น วัดคลองสิบสอง
พระเนื้อครูหมายเลข 41 พระสมเด็จหลวงพ่อหม่น วัดคลองสิบสอง
พระเนื้อครูหมายเลข 42 พระพิมพ์ลีลาถือดอกบัวหลวงพ่อหม่น วัดคลองสิบสอง
พระเนื้อครูหมายเลข 43 พระพิมพ์ปางขัดสมาธิเพชร ฐานเจ็ดชั้น หลวงพ่อหม่น วัดคลองสิบสอง
พระเนื้อครูหมายเลข 44 พระสมเด็จวัดมฤคทายวัน
พระเนื้อครูหมายเลข 45 พระสมเด็จวัดมฤคทายวัน
พระเนื้อครูหมายเลข 46 พระสมเด็จโพธิ์แปดแช่น้ำมนต์ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
พระเนื้อครูหมายเลข 47 พระสมเด็จโพธิ์หกฐานเกยยุคต้นแช่น้ำมนต์ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
พระเนื้อครูหมายเลข 48 พระกรุวัดครูสลอด
พระเนื้อครูหมายเลข 49 พระกรุวัดครูสลอด
ยุคที่ 5พระผงที่สร้างระหว่างพ.ศ. 2480-2494
|
|
|
พระเนื้อครูหมายเลข 50 พระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆัง ยุคต้น แก่ผงวัดระฆัง ปี 2485
พระเนื้อครูหมายเลข 51 พระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆัง ยุคต้น แก่ผงวัดระฆัง ปี 2485
พระเนื้อครูหมายเลข 52 พระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆัง ยุคต้น แก่ผงวัดระฆัง ปี 2485
พระเนื้อครูหมายเลข 53 พระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆัง ยุคต้น แก่ผงวัดระฆัง ปี 2485
พระเนื้อครูหมายเลข 54 พระสมเด็จพระครูลมูล วัดสุทัศน์ พิมพ์ทรงเจดีย์ แก่ผงวัดระฆัง
พระเนื้อครูหมายเลข 55 พระสมเด็จพระครูลมูล วัดสุทัศน์ พิมพ์ทรงเจดีย์ แก่ผงวัดระฆัง
พระเนื้อครูหมายเลข 56 พระผงพิมพ์รัศมี หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว รุ่นอินโดจีน
พระเนื้อครูหมายเลข 57 พระสมเด็จพิมพ์เข่าบ่วง หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ
พระเนื้อครูหมายเลข 58 พระสมเด็จ หลวงปู่รอด วัดเกริ่น
พระเนื้อครูหมายเลข 59 พระสมเด็จ หลวงปู่เลี่ยม วัดศรีบุญเรื่อง
พระเนื้อครูหมายเลข 60 พระสมเด็จอรหัง กรุวัดชนะสงคราม
พระเนื้อครูหมายเลข 61 พระผงกลีบบัว วัดอัมพวัน
ยุคที่ 6 พระผงที่สร้างระหว่างพ.ศ. 2495-2506
|
|
|
พระเนื้อครูหมายเลข 62 พระคะแนนพันหลวงปู่นาค วัดระฆังพิมพ์รูปเหมือนสมเด็จโต พิมพ์ใหญ่ ปี 2495
พระเนื้อครูหมายเลข 63 พระคะแนนพันหลวงปู่นาค วัดระฆัง พิมพ์รูปเหมือนะสมเด็จโต พิมพ์กลาง ปี 2495
พระเนื้อครูหมายเลข 64 พระผงรูปเหมือนสมเด็จโต พิมพ์เล็กหลวงปู่นาค วัดระฆัง ปี 2495
พระเนื้อครูหมายเลข 65 พระสมเด็จพิมพ์ชิ้นฝักนิยมหลวงปู่นาค วัดระฆัง สร้าง ปี 2495
พระเนื้อครูหมายเลข 66 พระสมเด็จพิมพ์เทวดาอกร่องหูบายศรี นิยม หลวงปู่นาค วัดระฆัง สร้าง ปี 2495
พระเนื้อครูหมายเลข 66 พระสมเด็จพิมพ์เทวดาอกร่องหูบายศรี นิยม หลวงปู่นาค วัดระฆัง สร้าง ปี 2495
พระเนื้อครูหมายเลข 67 พระสมเด็จพิมพ์เทวดาหลวงปู่นาค วัดระฆัง สร้าง ปี 2495
พระเนื้อครูหมายเลข 68 พระสมเด็จพิมพ์สามชั้นฐานสิงห์ หลวงปู่นาค วัดระฆัง สร้าง ปี 2495
พระเนื้อครูหมายเลข 69 พระสมเด็จพิมพ์ปรกโพธิ์ฐานแซมหลวงปู่นาค วัดระฆัง สร้าง ปี 2495
พระเนื้อครูหมายเลข 70 พระสมเด็จพระครูมูล วัดสุทัศน์พิมพ์มีหน้าตา แก่ผงวัดระฆัง ปี 2495
พระเนื้อครูหมายเลข 71 พระสมเด็จพระครูมูล วัดสุทัศน์พิมพ์มีหน้าตา แก่ผงวัดระฆัง ปี 2495
พระเนื้อครูหมายเลข 72 พระสมเด็จพระครูมูล วัดสุทัศน์พิมพ์มีหน้าตา แก่ผงวัดระฆัง ปี 2495
พระเนื้อครูหมายเลข 73 พระสมเด็จพระครูมูล วัดสุทัศน์พิมพ์มีหน้าตา แก่ผงวัดระฆัง ปี 2495
พระเนื้อครูหมายเลข 74 พระสมเด็จวัดประสาทบุญญาวาศ พิมพ์พระครูมูล แก่ผงวัดบางขุนพรหม ปี 2506
พระเนื้อครูหมายเลข 75 พระสมเด็จวัดประสาทบุญญาวาศ พิมพ์พระครูมูล แก่ผงวัดบางขุนพรหม ปี 2506
พระเนื้อครูหมายเลข 76 พระสมเด็จวัดประสาทบุญญาวาศ พิมพ์พระครูมูล แก่ผงวัดบางขุนพรหม ปี 2506
พระเนื้อครูหมายเลข 77 พระสมเด็จวัดประสาทบุญญาวาศ พิมพ์พระครูมูล แก่ผงและดินกรุวัดบางขุนพรหม ปี 2506
พระเนื้อครูหมายเลข 78 พระสมเด็จวัดประสาทบุญญาวาศ พิมพ์แขนกว้าง แก่ผงวัดบางขุนพรหม ปี 2506
พระเนื้อครูหมายเลข 79 พระสมเด็จหลวงพ่อโชติ ว้ดตะโน พิมพ์ขาโต๊ะ
พระเนื้อครูหมายเลข 80 พระพิมพ์รัศมี ร่นสร้างเจดีย์ หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว ปี 2496
พระเนื้อครูหมายเลข 81 พระสมเด็จเก้าชั้นอกวี ร่นสร้างเจดีย์ หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว ปี 2496
พระเนื้อครูหมายเลข 82 พระสมเด็จวัดเกศไชโย รุ่นสร้างเชื่อน ปี 2495
พระเนื้อครูหมายเลข 83 พระสมเด็จเผ่า วัดอินทรวิหาร ปี 2495
|
|
|
|