ศิษย์เก่าดีเด่น
จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการยกย่องศิษย์เก่าของโรงเรียนถนอมพิศวิทยาที่ได้ประสบความสำเร็จในการศึกษาหรือประสบความสำเร็จในการทำงานและได้ออกไปสร้างชื่อเสียงเกียรติยศได้รับการยกย่องในวงสังคม ผ่านสื่อสารมวลชนต่าง ๆ เป็นตัวอย่างที่ดีกับศิษย์ปัจจุบันทั้งยังสร้างความภาคภูมิใจของให้กับครูผู้สอนและโรงเรียน
***************************************************************
ทางเวปมาสเตอร์กำลังรวบรวมข้อมูลศิษย์เก่าโรงเรียนถนอมพิศวิทยาที่มีความดีเด่นในวงสังคม เพื่อน ๆ ร่วมรุ่นที่มีข้อมูลเพื่อนๆที่ประสบความสำเร็จสามารถแจ้งข้อมูลมาที่ทางอีเมล์ ariyasound@hotmail.com เพื่อนำมาลงในเวปไซต์โรงเรียนในหน้าศิษย์เก่าดีเด่นต่อไปครับ
******************************************************************************************************
ภาพบรรยากาศงานเลี้ยงต้อนรับคณะผู้แทนประเทศไทยกลับจากการแข่งขันคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ประจำปีพ.ศ. 2553 ซึ่งนายนครินทร์ โลหิตศิริ ศิษย์เก่าโรงเรียนถนอมพิศวิทยา ได้รับรางวัลเหรียญทองจากการแข่งขัน ฟิสิกส์โอลิมปิก ทางโรงเรียนประกอบด้วยท่านผู้อำนวยการ ท่านผู้จัดการและคณะครูได้ไปร่วมแสดงความยินดี และทางโรงเรียนได้มอบทุนการศึกษาเพื่อเป็นรางวัลที่เป็นศิษย์เก่าที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียน นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังได้รับประกาศนียบัตรชมเชยในฐานะโรงเรียนที่มีส่วนร่วมในการพัฒนานักเรียนที่โดดเด่น
"จันทร์ส่องดาว" จันทร์นี้ ขอนำเสนอ พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง ผู้กำกับการกองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (ผกก.1 บก.ทท.) นายตำรวจรุ่นใหม่ไฟแรงที่มีผลงานจับกุมแก๊งคนร้ายชาวต่างชาติมาแล้วหลายคดีไม่ว่าจะเป็นคดีแก๊งปาร์ตี้เซ็กส์สวิงกิ้ง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวไต้หวัน แก๊งชาวจีนล้วงกระเป๋าบนรถไฟฟ้า และล่าสุดสามารถรวบแก๊งโคลัมเบีย ที่เช่ารถออกตระเวนงัดบ้านหรูลักทรัพย์ นอกจากยังผ่านงานในการเป็นผู้ช่วยนายเวรของนายตำรวจระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.ไปจนถึง ผบ.ตร.มาแล้ว เรียกว่าเก่งทั้ง "บู๊" และ "บุ๋น" เลยทีเดียว
พ.ต.อ.อาชยน มีชื่อเล่นว่า กอล์ฟ เกิดเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2513 เริ่มต้นเข้าศึกษาชั้นประถมที่โรงเรียนถนอมพิศวิทยา ย่านลาดพร้าว จากนั้นก็ได้เข้าศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมที่โรงเรียนบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) จนถึงระดับชั้น ม.5 ก่อนจะมาศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 30 จากนั้นจึงเข้าศึกษาที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน รุ่นที่ 46
เมื่อจบหลักสูตรแล้ว พ.ต.อ.อาชยน ก็เริ่มรับราชการครั้งแรกตำแหน่ง รอง สารวัตรสอบสวน สน.ดุสิต จากนั้นได้เดินทางไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ด้านการบริหารจัดการภาครัฐ (รัฐประสานศาสตร์ มหาบัณฑิต) ที่ ม.เซาท์อีสเทิร์น ยูนิเวอร์ซิตี้ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อจบหลักสูตรก็เดินทางกลับมารับตำแหน่ง ผู้ช่วยนายเวร ของ พล.ต.อ.มีชัย นุกูลกิจ ผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจในขณะนั้น
หลังจากนั้นก็รับตำแหน่ง สวป.สน.ทองหล่อ ก่อนจะขึ้นมาเป็นผู้ช่วยนายเวรของ พล.ต.อ.บุญเพ็ญ บำเพ็ญบุญ ขณะยังเป็นผู้ช่วยผบ.ตร. จากนั้นก็ย้ายไปเป็น สว.ผ.8 กก.3 บก.ทท. หรือ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ และเลื่อนขึ้นมารับตำแหน่ง รอง ผกก.4 บก.ทท. ซึ่งดูแลรับผิดชอบงานของตำรวจท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ จากนั้นก็รับตำแหน่งผู้กำกับการ (ผกก.) ในฐานะผู้ช่วยนายเวรของ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีต ผบ.ตร. และโยกไปรับตำแหน่ง ผกก.กอ.รมน. จนกระทั่งปี 51 ก็มารับตำแหน่ง ผกก.1 บก.ทท.จนถึงปัจจุบัน
พ.ต.อ.อาชยน มีหลักในการทำงานก็คือ ต้องศึกษาเนื้องานให้ถ่องแท้ทุกหน้าที่ไม่ว่าจะเป็นการทำหน้าที่นายเวร หรือ งานอื่นๆ และไม่ทิ้งลูกน้อง มีความใส่ใจในผลประโยชน์ของทางราชการ ทำงานด้วยความสนุก มีสีสัน เพราะงานทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม หากเราทำงานด้วยความสนุกแล้วงานชิ้นนั้นก็จะออกมาดี ที่สำคัญก็คือจะต้องตั้งใจทำให้ดีที่สุด
"นอกจากนี้จะต้องมีความละเอียดกับทุกมิติของการทำงานไม่ให้เกิดข้อบกพร่อง ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารกับผู้ใต้บังคับบัญชา หรือการรายงานในสิ่งที่ไม่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น และจะต้องรายงานตามสายงานบังคับบัญชาเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ง่ายๆก็คือ ไม่ทำงานล้ำเส้น ไม่รายงานข้ามหัวใคร ในส่วนของการทำงานกับลูกน้องนั้น โดยส่วนตัวแล้วชอบทำงานแบบครู ก็คือต้องสอนงานก่อนเพื่อให้เรียนรู้ หากลูกน้องผิดพลาดก็ต้องตักเตือน มีครั้งที่ 1 และ2 ให้ลูกน้องเข้าใจให้ได้ว่าเราต้องการอย่างไร เพื่อให้เขาปฏิบัติตามให้ได้" ผู้กำกับกอล์ฟ กล่าว
พ.ต.อ.อาชยน กล่าวถึงขอบเขตงานในปัจจุบัน ซึ่งถือว่าเจ้าตัวเป็นผู้นำของกองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (กก.1 บก.ทท.) ว่าในส่วนของ กก.1 บก.ทท.จะรับผิดชอบพื้นที่กทม.ทั้งหมด ลักษณะงานคือดูแลอำนวยความสะดวก รักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นชาวไทย หรือชาวต่างประเทศ แต่ที่เน้นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็เพราะ ตำรวจท่องเที่ยวมีศักยภาพในเรื่องของ "ภาษา" หากเกิดเหตุกับคนไทยแล้วก็สามารถเข้าไปแจ้งความตาม สน.ต่างๆ ได้ทันทีทั่วทุกท้องที่ แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะไม่มีคนดูแล หากเกิดเหตุขึ้นกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตำรวจท่องเที่ยวก็จะเข้าไปช่วยเหลือทันทีด้วยการประสานงานกับทางบช.น. ไม่ว่าจะทางวิทยุ ทางโทรศัพท์ หรือ สายด่วน 1155
ในส่วนผลงานที่ พ.ต.อ.อาชยน ภูมิใจมากที่สุดก็คือ ช่วงที่ดำรงตำแหน่งรอง ผกก.4 บก.ทท. ซึ่งตอนนั้นทางสำนักงานตรวจแห่งชาติ ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานเป็นผู้ประสานงานกับการหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของกองประกวดมิสยูนิเวอร์ส หรือ นางงามจักรวาลในปี พ.ศ.2548 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานขึ้น งานนั้นใช้งบประมาณถึง 700 ล้านบาท ถือว่าเป็นงานใหญ่ระดับน้องๆ การประชุมเอเปกเลยทีเดียว และพ.ต.อ.อาชยน ก็เป็นตำรวจคนเดียวที่คอยประสานงานกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติตลอดระยะเวลาการประกวด 1 เดือน
"ความจริงแล้ว งานนี้ต้องทำการบ้านก่อนหน้าการประกวดประมาณ 2 เดือน ต้องลงตรวจพื้นที่ และในช่วงที่มีการประกวดแต่ละวันก็ต้องประสานงานกับตำรวจเกือบทั้งกรม ตั้งแต่เฮลิคอปเตอร์ เรือของตำรวจน้ำ รถตำรวจทางหลวง รถตำรวจท่องเที่ยว เพื่อรักษาความปลอดปลอดภัยให้นางงามจากเกือบ 70 ประเทศ รวมทั้งต้องมีการตรวจวัตถุระเบิด และใช้อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยในโรงแรมที่พักของนางงาม โดยงานนี้ต้องใช้กำลังพลของตำรวจทั่วประเทศถึง 5,000 นาย ซึ่งตัวเราเป็นคนเดียวที่รู้ภารกิจของทุกช่วงในแต่ละวัน แต่ละนาที ว่าจะต้องทำอะไร ไปที่ไหนบ้าง และคอยสั่งการในนาม ตร.เพื่อประสานงานกับทุกฝ่ายโดยตรง จึงทำให้ภูมิใจในงานชิ้นนี้มาก" พ.ต.อ.อาชยน กล่าว
พ.ต.อ.อาชยน กล่าวต่อว่า เมื่อขึ้นมารับตำแหน่ง ผกก.1 บก.ทท. ก็มีผลงานที่สามารถคลี่คลายได้หลายคดี เช่นคดีนายเกียต้า จิโอวานี ชาวอิตาเลียนที่ผูกคอตายกับราวสะพานพระราม 8 โดยเจ้าตัวกระโดดลงมาจากสะพานแล้วเชือกที่ผูกคอไปรัดเอาติ่งหูกับบางส่วนของลำคอขาดเสมอกัน จนลำตัวหล่นลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งคดีนี้ก็สืบข้อมูลจนทราบว่า ผู้ตายเป็นใครมาจากไหน ทำความกระจ่างให้ประชาชนทราบว่า เป็นการฆ่าตัวตายเองเนื่องจากป่วย และคิดมาก ไม่ได้ถูกมาเฟียที่ไหนฆ่าตาย
ส่วนผลงานอื่นๆ นั้นก็มีคดีนำกำลังบุกทลายเซ็กส์ทัวร์ในโรงแรมย่านสะพานควาย โดยคดีนี้เริ่มจากตรวจสอบเว็บไซด์ที่มีการโฆษณาในเว็บบอร์ดว่า มีการจัดหาคู่สวิงกิ้งกับนักท่องเที่ยวต่างชาติในเมืองไทย ชวนกันไปสุมทางเพศกันอย่างโจ๋งครึ่มโดยเสียค่าใช้จ่ายคนละ 3,000 บาท ต่อหนึ่งครั้ง ก่อนนำกำลังบุกทลายปาร์ตี้ดังกล่าว พร้อมจับกุมนายคริสเตียน อาเธอร์ ริชชาร์ด ชาวอังกฤษ กับนางดวงจันทร์ สระน้อย ภรรยาชาวไทยที่ร่วมกันเปิดเว็บไซด์เอาไว้ได้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีคดีที่เป็นหนึ่งในทีมร่วมจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรศัพท์ไปหลอกลวงให้โอนเงินทาง โดยที่ จ.เชียงใหม่ จับกุมผู้ต้องหาได้ 100 กว่าคน และจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ จ.ภูเก็ต ได้อีก 50 กว่าคน และเมื่อรวมกับที่สามารถจับกุมได้ในพื้นที่ กทม. แล้วก็ไม่ต่ำกว่า 300 คน มีทั้งชาวไต้หวัน ชาวจีน และชาวไทย รวมไปถึงการกวาดล้างแก๊งชาวจีนที่ลักทรัพย์บนสถานีรถไฟฟ้ามีอยู่ตลอดเวลา และผลงานชิ้นล่าสุดก็คือการจับกุมแก๊งชาวโคลัมเบีย ที่เช่ารถตระเวนงัดบ้านลักทรัพย์ตามหมู่บ้านได้อีก
ผกก.กอล์ฟ เล่าย้อนให้ฟังว่า จริงๆแล้วไม่ได้คิดจะเป็นตำรวจตั้งแต่แรก เนื่องจากเรียนสายวิทย์ และชอบงานออกแบบ จึงอยากเป็นสถาปนิก ช่วงเรียนมัธยมก็ไม่ได้คิดอะไรต่างจากเยาวชนไทยทั่วไปคือ เอ็นทรานซ์ แต่เพื่อนซื้อใบสมัครมาฝาก จึงลองมาสอบเข้าดู เมื่อได้เข้ามาศึกษาที่โรงเรียนนักเรียนนายร้อยแล้ว ก็ได้รับรู้ถึงสภาพความขาดแคลน ปัญหา รวมไปถึงอุปสรรคในการทำงานของตำรวจ ทำให้มองตำรวจเปลี่ยนไป จากเดิมที่คิดว่าเป็นราชการ มีเงินเดือนใช้ หลังจากเกษียณก็มีบำนาญ
แต่เมื่อได้รับการอบรมและฝึกฝนให้ปฏิบัติหน้าที่จึงรู้ว่า ตำรวจนั้นน่าสงสาร มีหน้าที่หนักหนาสาหัสเพียงใด ตำรวจต้องเจ็บต้องตายทุกวัน เพียงแต่ภาพลักษณ์บางอย่างที่ประชาชนไม่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตั้งด่าน การออกใบสั่ง และเรื่องอื่นๆอีกจึงทำให้ประชาชนนั้นมองตำรวจที่ไม่ดีบางส่วน เป็นตำรวจส่วนใหญ่ไป จึงพยายามคิดว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนรับรู้ว่า ตำรวจนั้นไม่มีช่องว่างกับประชาชน พร้อมที่จะรับฟังและแก้ไขปัญหาให้เท่าที่จะทำได้
พ.ต.อ.อาชยน กล่าวด้วยว่า ในส่วนของตัวเองที่เป็นตำรวจท่องเที่ยวนั้น ก็พยายามจะทำอะไรหลายๆ ให้ประชาชนโดยเฉพาะนักท่องเที่ยว เพื่อช่วยกู้ภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการป้องกันหรือปราบปราม ซึ่งการป้องกันไม่ให้เหตุเกิดขึ้นนั้น ถือว่าเป็นหัวใจหลักของตำรวจ แต่ในเมื่อเหตุเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวแล้วไม่ว่าจะที่ใดก็จะจัดกำลังตำรวจท่องเที่ยวลงไปช่วยเหลือทันที ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่แจ้งไปแล้วเป็นชั่วโมงตำรวจยังไม่มา นักท่องเที่ยวประสบเหตุที่ไหนก็จะจัดสายตรวจลงไปดูแลทันทีไม่ต้องรอให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแจ้ง และดูแลจนกว่าเขาจะเดินทางกลับออกจากประเทศไทยไป
นอกจากนี้ต้องพยายามสืบสวนจับกุมคนร้ายไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแก๊งต่างๆ ที่เข้ามาประทุษร้ายต่อชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวให้ลดน้อยลงที่สุดจนถึงไม่มีเลย และที่สำคัญจะต้องให้การบริการประชาชนและนักท่องเที่ยวให้เหมือนกับคำขวัญของตำรวจท่องเที่ยวคือ "ดูแลนักท่องเที่ยวดุจญาติมิตร"
